6 ข้อเสียของหลอดไฟดาวน์ไลท์แบบ Halogen
หลอดไฟดาวน์ไลท์แบบ Halogen เคยเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการใช้งานในบ้าน และธุรกิจ โดยหลอดไฟชนิดนี้ให้แสงสว่างที่สดใส ราคาที่ไม่แพง อย่างไรก็ตามหลายๆ ท่านอาจจะมองว่าการใช้ไฟดาวน์ไลท์แบบนี้ปลอดภัยอยู่แล้ว แต่หลอดไฟเหล่านี้ก็มีข้อเสียที่เป็นอันตรายอยู่หลายอย่างที่คุณควรพิจารณา บทความนี้ Well Lighting จะพาคุณไปดูข้อเสียของหลอดไฟ Hologen ที่คุณควรเลี่ยง แล้วถ้าเลี่ยงมีอะไรที่ทดแทนกันได้ ไปดูกันครับ
หัวข้อเนื้อหา
ก่อนอื่นมาพูดถึงข้อเสียของหลอดไฟชนิดนี้ที่อยู่กับเรามาอย่างเนิ่นนานกันนะครับ
1. อายุการใช้งานสั้น
หลอดไฟแบบฮาโลเจนมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 2,000 ชั่วโมง
2. ความร้อนสูง
หลอดชนิดนี้มีความร้อนสูงมากขณะใช้งาน หากต้องการเปลี่ยนหลอดไฟหลังการใช้งานทันทีก็ไม่สามารถเปลี่ยนได้ เพราะผิวสัมผัสของหลอดไฟอาจจะร้อนถึง 200 องศาฟาเรนไฮต์ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดแผลไหม้ได้หากคุณสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ หรืออาจจะเกิดอุบัติเหตุจากการที่หลอดไฟขยายตัวมากขึ้น เป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงทำให้กระจกของหลอดไฟแตกได้ นอกจากนี้ยังเสี่ยงเกิดไฟไหม้ จากการที่หลอดไฟอยู่ในพื้นผิวที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ไฟลัดวงจร และหลอมละลาย จนเกิดเพลิงไหม้ในที่สุด
3. เสื่อมสภาพของสี
หลอดไฟฮาโลเจน จะเริ่มมีสีซีดลงเมื่อเวลาผ่านไป แสงสว่างจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือสีส้ม ส่งผลต่อความสวยงามของการมองเห็นของเราอีกด้วย หรือทีเรียกอีกอย่างว่าค่าดัชนีความถูกต้องของสี (ค่า CRI) ต่ำกว่ามาตราฐานนั่นเองครับ
4. รังสีอัลตราไวโอเลต
หลอดฮาโลเจน มีรังสีอัลตราไวโอเลต หรือที่เราเรียกกันว่า รังสี UV ที่เราได้รับจากแสงแดดภายนอกในช่วงกลางวัน ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิวหนัง และดวงตา เป็นอย่างมากหากได้รับเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะเด็กทารก และผู้สูงอายุ อาจจะทำให้ผิวไหม้เหมือนโดนแสงแดด หรือระคายเคืองผิวหนังได้
5. ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ส่วนประกอบของหลอดไฟชนิดนี้ มีสารปรอท ซึ่งเป็นสารพิษต่อสิ่งแวดล้อม ถึงแม้จะใช้งานจนเสื่อมสภาพแต่สารปรอยังคงหลงเหลืออยู่
6. เป็นหลอดไฟดาวน์ไลท์ที่กินไฟ
หลอดแบบนี้กินไฟมากกว่าหลอดไฟ LED ที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้ว หลอดไฟ LED จะใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 20-30% ของหลอดไฟฮาโลเจนเท่านั้น
จากการที่ผลได้กล่าวมาทั้งหมดในข้างต้น ก็เหมือนเป็นการตอบคำถามไปในตัวในบางข้อ เพราะมีหลอดไฟชนิดหนึ่ง ที่สามารถทดแทนหลอดไฟแบบ ฮาโลเจนได้ นั่นก็คือ หลอดไฟ LED เจ้าหลอดไฟชนิดนี้สามารถช่วยคุณประหยัดเงินค่าไฟได้มาก มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 25,000-50,000 ชั่วโมง ทั้งให้แสงสว่างที่มากกว่าโดยมีค่า CRI ไม่ต่ำกว่า 80 ตลอดการใช้งาน ปราศจากสารปรอทเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่มีรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อคนในครอบครัวอีกด้วย ซึ่งหลอดไฟ LED ก็สามารถใช้งานคู่กับโคมไฟหลากหลายรูปแบบ หากคุณกังวลว่าถ้าเปลี่ยนหลอดไฟแล้วจะใช้โคมไฟอะไรดี “Magnetic Track Light” คือทางออกสำหรับคนยุคใหม่อย่างเราครับ หลายๆ ท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมโคมไฟประเภทนี้ถึงเป็นสิ่งที่นำมาทดแทนหลอดไฟ Hologen แบบเก่า เราไปทำความรู้จักแบบคร่าวๆ กันครับ
Magnetic Track Light คือทางเลือกของบ้านยุคใหม่
ซึ่งระบบนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า โคมไฟรางแม่เหล็ก ที่ใช้หลอด LED รับรองว่าประหยัดไฟอย่างแน่นอน แถมยังมีดีไซน์ที่ทันสมัย เข้ากับทุกสไตล์บ้านเหมาะกับคนยุคใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยหลักการทำงานของโคมชนิดนี้จะใช้หลักการดูดของแม่เหล็ก สามารถปรับเปลี่ยนทิศทางได้อย่างอิสระ ซึ่งง่าย และสะดวกต่อการใช้งานมากๆ แถมยังช่วยแก้ปัญหาหลืบฝ้าที่มักจะเป็นที่สะสมของฝุ่น สายไฟรกๆ และแมลงอีกด้วย หากว่าสนใจในตัวระบบรางชนิดนี้ สามารถอ่านได้จากลิงค์บทความก่อนหน้า ที่ด้านล่างนี้กันได้เลยครับ
- บอกลาปัญหาจากการมีหลืบฝ้าด้วย Magnetic Track
- ติดตั้ง Magnetics Track ราคาเป็นยังไง จัดเซ็ตกันให้ดูกันไปเลย
- ติดตั้ง Magnetics Track ทำง่ายได้งานสวย
- แสงสมบูรณ์แบบเมื่อใช้ดาวน์ไลท์ + Magnetics Track
หากคุณสนใจอยากลองเปลี่ยนโคมไฟทาง Well lighting ยินดีให้คำปรึกษากับคุณฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อเราได้จากช่องทางต่างๆ บนหน้าหน้าเว็บไซต์ หรือ Facebook Page ของ Well Lighting ได้เลยครับ
สินค้าที่เกี่ยวข้องกับบทความ