การออกแบบไฟแสงสว่างสำหรับร้านจิวเวลรี่ต้องทำอย่างไร ?
การออกแบบไฟแสงสว่างสำหรับร้านจิวเวลรี่ต้องทำอย่างไร ?
หากพูดถึงสิ่งที่เสริมเติมเเต่งให้บุคลิกของคนเรานั้น ให้ดูโดดเด่นหรือแม้กระทั่งให้ดูภูมิฐานก็สามารถทำได้ เพราะการสวมใส่ เครื่องประดับ (Jewelry) ก็ทำให้เราเปลี่ยนลุคได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ชื่นชอบความสวยความงาม และหลงในความแวววาวของเครื่องประดับ ภายใต้แสงไฟทำให้ผู้สวมใส่มีประกายระยิบระยับ เพิ่มความรู้สึกที่เร่าร้อน เเสงของไฟ LED ที่ส่องให้กับเครื่องประดับจึงมีความสำคัญไม่น้อย ร้านขายเครื่องประดับที่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยระดับไฮเอนด์ มักจะสื่อสารความรู้สึกและบรรยากาศ ของร้านด้วยเเสงสว่างภายใน ดังนั้นการออกแบบแสงของร้านจิวเวลรี่จึงต้องสร้างบรรยากาศที่ดีและยกระดับร้านจิวเวลรี่ให้ดียิ่งขึ้น ต่อไปนี้คือแนะนำว่าอะไรควรให้ความสนใจในการออกแบบแสงสว่างของร้านขายเครื่องประดับ?
1. อัญมณีต่าง ๆ ในร้านขายเครื่องประดับควรใช้สีของแสงไฟต่างกัน ทอง เพชร หยก ฯลฯ ต่างต้องการแสงที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น เพื่อให้สีทองสวยอร่ามขึ้น อุณหภูมิสีโดยทั่วไป จะใช้ไฟที่แสงโทนวอร์มไวท์ ในส่วนอุณหภูมิสีของเพชรจะถูกเลือกให้สูงกว่าของทอง แสงที่ใช้จะเป็นโทนแสงขาวเดย์ไลท์ ซึ่งสามารถแสดงถึงความแวววาวของเพชรได้ดีกว่า และท้ายสุดอุณหภูมิสีของมรกตสามารถเลือกใช้ไฟที่มีแสงโทนคูลไวท์ขึ้นไปทอง เเนะนำให้ใช้แสง (3000K) เพชร เเนะนำให้ใช้แสง (5000K-6500K)มรกต เเนะนำให้ใช้แสง (4000K-5000K)
2. ในการออกแบบไฟประดับอัญมณี จะต้องเบาสบายสายตา และความสว่างโดยทั่วไปไม่สูงเกินไป ในขณะที่ทองคำขาวและเพชรต้องแสดงให้เห็นเด่นชัด สามารถเลือกโคมไฟ LED ที่ให้ลูเมน (Lumen) ที่สูงพอที่จะให้แสงเฉพาะจุดได้
3. แสงสว่างของร้านจิวเวลรี่ต้องมีค่าความถูกต้องของสีสูงมาก เพราะเมื่อแสงถูกส่องบนเครื่องประดับ เครื่องประดับจะไม่สูญเสียสีเดิม ดังนั้นจึงควรเลือก LED ที่มีค่าความถูกต้องของสี (CRI) ที่มีระดับ Ra90 ขึ้นไป ยิ่งความถูกต้องของสีสูงเท่าใด ก็ยิ่งสามารถถ่ายทอดรายละเอียดงานฝีมือและความชัดเจนของเครื่องประดับได้มากเท่านั้น