ไฟซ่อนฝ้าเพดาน
ไฟซ่อนฝ้าเพดาน
ไฟซ่อนฝ้าหรือไฟหลืบฝ้า (Cove light)
เป็นเทคนิคการให้แสงสว่างแบบ indirect light โดยการซ่อนแหล่งกำเนิดเเสง (Light sources) ไว้บนฝ้า
เพื่อไม่ให้มองเห็นในขณะที่แสงสะท้อนจากพื้นผิววัสดุอื่นไม่ว่าจะเป็นฝ้าเพดาน ผนัง ฯลฯ ทำให้แสงเรือง (Glow)ออกมาได้อย่างนุ่มนวลเเละสม่ำเสมอ อีกทั้งยังให้เเสงสว่างกับพื้นที่อีกด้วย
ปัจจุบัน สถาปนิก นักออกแบบภายใน และผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างนำไฟซ่อนฝ้าเข้ามาใช้ในโครงการอย่างแพร่หลาย และไฟที่นิยมนำมาใช้เป็นแหล่งกำเนิดเเสงคงหนีไม่พ้น Led Strip เป็นไฟที่เหมาะสมสำหรับการให้แสงจากหลืบฝ้าด้วยคุณสมบัติทางไฟฟ้าและทางเทคนิคทางไฟฟ้า มีความปลอดสูงเนื่องจากไฟ LED รับแรงดันไฟฟ้ากระเเสตรง24VDC และมีวัตต์ให้เลือกใช้ตั้งแต่ 4.8W/M-14.4W/Mในส่วนทางเทคนิค Led Strip มีระยะตัดที่เหมาะสมกับระยะของหลืบฝ้าและมีอุปกรณ์อย่าง Aluminum Profile ที่ช่วยให้แสงนุ่มนวลเเละสม่ำเสมอมากขึ้น เมื่อซ่อนในฝ้าดรอป วันนี้เรามีเทคนิคและขั้นตอนการเลือกใช้ไฟซ่อนฝ้ามาแนะนำ
4 ขั้นตอนการเลือกและติดตั้งไฟซ่อนฝ้า (Cove light & installation)
1. เลือกความสว่างสำหรับไฟซ่อนฝ้า(Cove light)
2. เลือกอุณหภูมิสีสำหรับไฟซ่อนฝ้า(Cove light)
3. เลือกแหล่งจ่ายไฟ(Driver LED)
4. ลักษณะการติดตั้งไฟ LED และการจัดวางตำแหน่ง
1. เลือกความสว่างสำหรับไฟซ่อนฝ้า (Cove light)
การเลือกเเสงสว่างที่เหมาะสมควรคำนึงถึงค่าความสว่างของไฟ LED Strip คือค่าลูเมน(Lumen)ที่บ่งบอกประสิทธิภาพของการให้เเสงสว่างมากหรือน้อยตามรายละเอียดของผู้ผลิต
ทั้งนี้สามารถอ่านค่าตามสเปคชีต (Specification sheet)ของหลอดไฟได้ ความต้องการของลูเมนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละโครงการซึ่งความสว่างของไฟซ่อนจะแบ่งหลักๆได้ 3ประเภท
1.1 ไฟส่องสว่างหลัก
จะเป็นเมนแสงสว่างหลักของพื้นที่ เช่น บริเวณโต๊ะทำงาน ห้องประชุม จึงต้องใช้ LED Strip ที่ให้ค่าลูเมน
เอาต์พุตสูงระดับความสว่างควรอยู่ระหว่าง 1,000 – 3,300lm/m
1.2 ไฟส่องสว่างเน้น
มีไว้เพื่อเพิ่มความสวยงามที่ดึงดูดความสนใจไปยังพื้นที่เฉพาะ เช่น เน้นการตกแต่งเพดานจึงต้องใช้ LED Stripที่ให้ค่าลูเมนเอาต์พุตสูงระดับความสว่างควรอยู่ระหว่าง 600 – 1,600lm/m
1.3 ไฟที่สร้างบรรยากาศ
การสร้างบรรยากาศเละสภาวะทางอารมณ์ด้วยเเสงสว่างจะทำให้ในพื้นที่โดยรวมนุ่มนวลเช่นไฟซ่อนบริเวณเฟอร์นิเจอร์ ไฟที่ปรับเปลี่ยนสีของแสงได้ไม่ว่าจะเป็น CCT หรือ RGB ซึ่งค่าลูเมนเอาต์พุตสูงระดับความสว่าง ควรอยู่ระหว่าง 300 – 900lm/m
2. เลือกอุณหภูมิสีสำหรับไฟซ่อนฝ้า (Cove light)
การเลือกอุณหภูมิสี(CCT)ของเเสงนั้นสำคัญเพราะสีสามารถส่งผ่านสภาวะทางอารมณ์และความรู้สึกได้ดีดังนั้นการเลือกสีของแสงให้เหมาะสมกับพื้นนี้นั้นๆ เช่น ห้องทำงานงานเเสงควรออกโทนสีขาว ห้องนอนสีของเเสงควรเป็นโทนอบอุ่นเป็นต้น
3. เลือกแหล่งจ่ายไฟ (Driver LED)
การเลือกเเหล่งจ่ายที่เหมาะสมควรคำนึงถึงความปลอดภัยและความความสามารถในการจ่ายไฟให้กับ LED Strip ดังนั้นจึงเเนะนำให้ใช้ระบบเเรงดัน 24VDC เหตุเนื่องด้วยลดการตกคร่อมได้ดี และหาได้ในท้องตลาดทั่วไปที่สำคัญโรงงานที่ผลิต LED strip สู่ตลาดส่วนใหญ่ก็ผลิต LED มาในระบบ 24VDC ในการคำนวณขนาดของแหล่งจ่ายไฟสำหรับไฟเส้น LED ต้องคำนวณวัตต์รวมทั้งหมดของไฟเส้นที่ใช้ จากนั้นนำตัวเลขมาบวกเพิ่มอีก 20% เพื่อป้องกันการโอเวอร์โหลดพาวเวอร์ซัพพลายเพราะจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของเเหล่งจ่ายไฟ
4. ลักษณะการติดตั้งไฟ LED อย่างไร
การติดตั้ง LED Strip นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธีขึ้นอยู่กับพื้นที่ของฝ้าหลืบหรือฝ้าดรอป สิ่งที่เป็นข้อดีและได้เปรียบกว่าหลอดไฟT5 คือ LED Strip ความยืดหยุ่นทำให้มีอิสระในการจัดวางมากขึ้นอีกทั้งแผ่นรองเป็นกาว 3M ทำให้การติดตั้งไฟ LED บนเพดานทำได้ง่ายมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่แคบ
3. เลือกแหล่งจ่ายไฟ (Driver LED)
การเลือกเเหล่งจ่ายไฟที่เหมาะสมควรคำนึงถึงความปลอดภัยและความความสามารถในการจ่ายไฟให้กับLED Strip
ดังนั้นจึงเเนะนำให้ใช้ระบบเเรงดัน 24VDC เหตุเนื่องด้วยลดการตกคร่อมของแรงดันได้ดี และหาได้ในท้องตลาดทั่วไปที่สำคัญโรงงานที่ผลิต LED strip สู่ตลาดส่วนใหญ่ก็ผลิต LED มาในระบบ 24VDC ในการคำนวณขนาดของแหล่งจ่ายไฟสำหรับไฟเส้น LED ต้องคำนวณวัตต์รวมทั้งหมดของไฟเส้นที่ใช้ จากนั้นนำตัวเลขมาบวกเพิ่มอีก 20% เพื่อป้องกันการโอเวอร์โหลดพาวเวอร์ซัพพลายเพราะจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของเเหล่งจ่ายไฟ
4. ลักษณะการติดตั้งไฟ LED และการจัดวางตำแหน่ง
การติดตั้ง LED Strip นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธีขึ้นอยู่กับพื้นที่ของฝ้าหลืบหรือฝ้าดรอป สิ่งที่เป็นข้อดีและได้เปรียบกว่าหลอดไฟ T5 คือ LED Strip ความยืดหยุ่นทำให้มีอิสระในการจัดวางมากขึ้นอีกทั้งแผ่นรองเป็นกาว 3M ทำให้การติดตั้งไฟ LED บนเพดานทำได้ง่ายมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่แคบ